หากจะพูดถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องในโลกที่แข่งขันกันที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือไปจนกระทั่งเทคโนโลยีอวกาศ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไมโครชิป คือ หัวใจของเทคโนโลยี มันคือสมองของการสั่งการระบบปฏิบัติการณ์ต่างๆให้ทำงานตามคำสั่งที่ถูกโปรแกรมเอาไว้ ฉะนั้นบริษัทเทคโนโลยีจึงแข่งขันกันพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อจะได้ครองพื้นที่ในตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันสูงเช่นนี้ ทว่า ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันที่ยังไม่ได้ล้ำสมัยไปกว่านี้ที่จะสร้างชิปที่มีคุณภาพสูงได้กว่าที่เป็นอยู่ แต่ผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็จะหันมาให้ความสำคัญที่ต้นทุนการผลิต ซึ่งก็นับว่าเป็นการอีกหนึ่งการพัฒนาที่สำคัญเช่นกัน
ไมโครชิป กับ การพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ไมโครชิปได้รับการพัฒนาไปอย่างมากมาตลอดกว่าหกสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการพัฒนาทั้งในด้านขนาดของชิปเอง ความสามารถในการประมวลผล ความจุของหน่วยความจำ และการใช้พลังงาน นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาในด้านการเชื่อมต่อและการสื่อสาร เพื่อให้ไมโครชิปสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปัจจุบัน ไมโครชิปมีขนาดเล็กมาก ซึ่งช่วยให้สามารถนำมาใช้ในอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก ๆ ได้ เช่น อุปกรณ์พกพา และอุปกรณ์สวมใส่ เช่น อุปกรณ์สวมใส่ที่ใช้ในการติดตามสุขภาพหรือกิจกรรมทางกายนั่นก็คือ นาฬิกาอัจฉริยะ เป็นต้น
ไมโครชิปยังมีความสามารถในการประมวลผลที่ดีขึ้น โดยมีหลายรุ่นที่มีความเร็วในการประมวลผลและการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถนำไปใช้ในงานที่ต้องการประมวลผลที่ซับซ้อน อย่างเช่น การประมวลผลภาพ การเรียนรู้เชิงลึก และตอบสนองการประมวลผลข้อมูลในทันที
นอกจากนี้ การใช้พลังงานของไมโครชิปก็ได้รับการพัฒนาอย่างมาก ทำให้ไมโครชิปสามารถทำงานในอุปกรณ์พกพาหรืออุปกรณ์ที่ต้องการการใช้พลังงานต่ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสรุปก็คือ ไมโครชิปได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในหลายด้าน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการและการใช้งานในสมัยปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
ไมโครชิป (Microchip) ถูกใช้ในเทคโนโลยีใดบ้าง
- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เป็นต้น ไมโครชิปใช้ในการประมวลผลข้อมูล ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ และให้การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ
- อุตสาหกรรมอัตโนมัติ ในอุตสาหกรรมอัตโนมัติ เช่น ระบบควบคุมการผลิต โรบอท ระบบอัตโนมัติในโรงงาน เครื่องจักรอัตโนมัติ เป็นต้น ไมโครชิปสามารถใช้ในการควบคุมและจัดการกระบวนการต่าง ๆ อัตโนมัติ
- ระบบภาพ ในระบบภาพ เช่น กล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบสแกนเนอร์ลายนิ้วมือ ระบบสแกนเนอร์ตรวจจับใบหน้า เป็นต้น ไมโครชิปสามารถใช้ในการประมวลผลภาพและให้การสื่อสารกับอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อควบคุมหรือจัดการข้อมูลภาพ
- ระบบเครือข่าย ในระบบเครือข่าย เช่น เราเตอร์ สวิตช์ โมเด็ม ไมโครชิปสามารถใช้ในการควบคุมการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ในเครือข่าย และการจัดการข้อมูลการสื่อสาร
- ระบบอัจฉริยะ (IoT) ในระบบอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ไมโครชิปสามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ เซ็นเซอร์อัจฉริยะ อุปกรณ์แสดงข้อมูลอัจฉริยะ เป็นต้น โดยสามารถใช้ในการควบคุมและจัดการข้อมูลการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ในระบบ IoT ได้
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ไมโครชิปในงานวิจัยทางการแพทย์ เทคโนโลยีการบิน เทคโนโลยีพลังงานโซล่าเซลล์ และที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันก็คือการพัฒนาอาวุธ เช่น ขีปนาวุธนำทาง ซึ่งมันจำเป็นต้องใช้ไมโครชิปในการสั่งระบบการทำงานต่อหนึ่งชิ้น ทั้งนี้ เราจึงจะเห็นได้ว่าเพียงอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆนี้ก็สามารถขับเคลื่อนโลกได้เช่นกัน
5 ไมโครชิป ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
ปัจจุบันมีการแข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีซึ่งเป็นหัวใจของอุปกรณ์อย่างกว้างขว้าง แต่ระบบที่ได้รับความนิยมและได้รับความเชื่อมั่นมากที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนี้ ได้แก่
- Apple M1 Chip เป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในเครื่อง Mac ที่ผลิตโดย Apple Inc. มีผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงและการจัดการพลังงานที่ดี มีประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สูงและใช้พลังงานต่ำ
- AMD Ryzen Series ชุดชิป AMD Ryzen ได้รับความนิยมในสายการ์ดกราฟิกและโปรเซสเซอร์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและราคาที่เหมาะสม
- Nvidia RTX 30 Series มีความสามารถในการประมวลผลกราฟิกที่มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกับเทคโนโลยี Ray Tracing และ AI ที่มีประสิทธิภาพ
- Qualcomm Snapdragon Series เป็นที่นิยมในโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่อื่น ๆ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง การเชื่อมต่อที่เร็ว และการจัดการพลังงานที่ดี
- Intel Core Series ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก มีประสิทธิภาพสูงและเป็นที่นิยมในวงการธุรกิจและการใช้งานทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ความสามารถของแต่ละแบรนด์นั้นจะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน อีกทั้งในท้องตลาดก็ยังมีไมโครชิปอีกหลายชนิดที่ถูกวางจำหน่าย ซึ่งราคาและคุณภาพก็จะแตกต่างกันออกไป
สรุป
ไมโครชิป คือ หัวใจของเทคโนโลยี ดังนั้น การพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะพัฒนาไมโครชิปที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่าเดิมก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดี ทว่า ด้วยที่มันมีขนาดเล็ก ฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อยอดต่อไปได้อย่างก้าวกระโดด ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโลยีไปทีละนิดควบคู่ไปกับระบบปฏิบัติการไมโครชิป ก็นับว่าเป็นก้าวที่สำคัญทุกย่างก้าว และไม่แน่ว่าในอนาคต เราจะย่อระบโครงข่ายทั้งหมดบนโลกให้เล็กลงโดยใช้เพียงชิปแค่ตัวเดียว เหมือนกับที่ชิปในปัจจุบันคือย่อขนาดของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่เท่าโกดังให้เหลือเพียงหนึ่งฝ่ามือ