ทางค่ายมือถือ Vivo ได้ปล่อยสมาร์ทโฟนในประเทศไทยกับตระกูลซีรี่ย์ Vivo V25 Series ซึ่งเป็นขวัญใจวัยรุ่นสายเซลฟี่ ชอบถ่ายรูปด้วยกล้องหน้า ทางวีโว่ได้ใส่โหมดลูกเล่นให้ท่านได้เล่นอีกมากมาย ด้านประสิทธิภาพการทำงานก็ลื่นหัวแตกกันไปเลย หน้าจอให้มาเป็น AMOLED ที่ให้สีสันที่สดใสคมชัด ออกมาทั้งหมด 2 รุ่นคือ vivo V25 5G และ vivo V25 Pro 5G
การออกแบบดีไซน์ Design
การออกแบบดีไซน์ที่ดูเป็นเอกลักษณ์สไตล์ Vivo V25 5G รูปแบบตัวเครื่องดูทรงมีความดูเหลี่ยมพื้นผิวรูปแบบขัดดูเงาเรียบหรู ด้านฝาหลังและด้านหน้าส่วนกระจกเป็นรูปทรงแบนราบเรียบ ตัวเครื่องมีความดูบางที่ขนาด 7.79 เซนติเมตรทำให้ตัวเครื่องพกพาสะดวกสบายเพราะขนาดที่บางนั้นเองแถมเกิดรอยได้ยากด้วย รุ่นนี้มีสีให้เลือกทั้งหมด 2 สีคือ สีดำ(Diamond Black) และสีทอง(Sunrise Gold)
ในขณะเวลาออกแดดหรือโดนแสงสว่างด้านฝาหลังจะมีการเปลี่ยนสีได้ดูแล้วสวยงามมากได้เอาแบบอย่างมาจากพระอาทิตย์ซึ่งทางวีโว่ใช้นวัตกรรม Color-Changing Glass ในรุ่นพี่อย่าง Vivo V25 Pro 5G จะถูกออกแบบการดีไซน์ให้ดูมีความเรียบหรูที่จัดอยู่ในระดับพรีเมี่ยม ด้วยการใช้จอรูปแบบ 3D ชนิดจอเป็น AMOLED ใหมาขนาดที่ 6.56 นิ้ว ให้ความละเอียดระดับ Full HD+ อัตราค่ารีเฟรชเรทอยู่ที่ 120Hz
ด้านการถ่ายภาพ Camera
รุ่น Vivo V25 Pro 5G จะเป็นรุ่นตัวท็อปที่สุดในตระกูลซีรี่ย์นี้ ตัวกล้องจะถูกออกแบบการดีไซน์วางตำแหน่งใหม่ทั้งหมด จัดเรียงกล้องให้ดูเสมอกันดูมีความเป็นมินิมอลมากยิ่งขึ้น ให้กล้องหลังมาทั้งหมด 3 ตัวประกอบไปด้วย เลนส์หลักความละเอียดระดับ 64 ล้านพิกเซล พร้อมใส่เทคโนโลยีระบบกันสั่น OIS Ultra-Sensing ที่รอบนี้พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
เลนส์อัลตร้าไวด์ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ในส่วนกล้องหลังนี้จะให้เหมือนกันทั้งสองรุ่น ที่ต่างคือกล้องหน้ารุ่นโปรจะมีเลนส์กล้องขนาด 32 ล้านพิกเซล ส่วนรุ่น vivo V25 5G จะเลือกใช้เลนส์กล้องที่ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่ใส่โหมดฟังก์ชันพิเศษอย่าง Eye AutoFocus แถมถ่ายเวลากลางคืนได้ดีกับโหมด Super Night Portrait
ด้านประสิทธิภาพในการทำงาน
รุ่น Vivo V25 5G จะเลือกใช้ชิปเซตของ MediaTek Dimensity 1300 ที่ผลิตบนเทคโนโลยีระดับ 6 นาโนเมตรที่รองรับการใช้ 5G รูปแบบ Dual Mode และมีระบบประหยัดพลังงานอย่าง 5G UltraSave ทำให้การใช้งานข่าย 5G ได้อย่างดีมีประสิทธิภาพมากกว่าตัวรุ่นก่อนหน้านี้ ความจำภายนอกมากับรูปแบบ LPDDR4X Plus ขนาด 12GB
แถมใส่นวัตกรรมของ Extended Ram 3.0 เพิ่มได้สูงสุดที่ 8GB ช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานได้อย่างลื่นไหล และตัวเก็บข้อมูลเป็นรูปแบบ UFS 3.1 ขนาด 256GB ที่จัดเก็บข้อมูลได้เยอะมากยิ่งขึ้น ส่วนรุ่นน้อง Vivo V25 5G จะเลือกใช้ชิปเซตของทางMediaTek Dimensity 900ซึ่งจะผลิตบนเทคโนโลยีระดับ 6 นาโนเมตรเช่นกัน ให้แรมมาที่ขนาด 8GB
และใส่เทคโนโลยี Extended Ram ที่ช่วยเสริมทัพในการยืมใช้แรมได้อีก 8GB ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้นไปอีกด้านตัวเก็บข้อมูลมีมา 2 ขนาดให้เลือกคือ 129GBกับ 256GB ยังไม่หมดสามารถเพิ่มเติมได้อีก 1TB กันเลยทีเดียว ในส่วนแบตเตอรี่รุ่นน้อง Vivo V25 5Gจะให้มาขนาด 4500mAh และใส่เทคโนโลยีระบบชาร์จเร็ว Flash Charge
สูงสุดที่ขนาด 44W ได้เคลมไว้ว่าต่อการชาร์จ 30 นาทีจะได้ 61% และถ้าชาร์จจาก 1-100% จะใช้เวลาไปเพียงแค่ 63 นาทีเท่านั้น และรุ่นโปรจะให้แบตเตอรี่มาขนาด 4830mAh ใส่เทคโนโลยีระบบชาร์จเร็ว Flash Charge สูงสุด 66W ทั้งสองรุ่นนี้ตอนนี้เปิดจองในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ปี 2565 เหล่าบรรดาสาวกเตรียมตัวเสียเงินกันได้เลย
สรุปคุณสมบัติ Vivo V25 5G
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch OS 12 รันบน Android 12 |
หน้าจอแสดงผล | 6.44 นิ้ว ความละเอียด FHD+(1080 x 2400) ค่าอัตรารีเฟรชเรท 90Hzค่าอัตราการสัมผัส Touch Sampling Rate 180Hz |
ชิปประมวลผล | MediaTek Dimensity 900 (6nm) |
Ram | 8GB (รองรับExtended RAM สูงสุด 8GB) |
Storage | 128GB, 256GB (UFS 2.2) |
กล้องหน้า | ความละเอียด 50MP ค่ารูรับแสง F/2.2 ,AF,รองรับโหมดSuper Night Portrait |
กล้องหลัง | ประกอบด้วย 3 ตัวเลนส์หลักความละเอียด 64MP ค่ารูรับแสงF/1.79 ระบบกันสั่น OIS Ultra-Sensingเลนส์อัลตร้าไวด์ ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสง F/2.2เลนส์มาโคร ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง F/2.4 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac dual-band Bluetooth 5.2 |
พอร์ต | USB-Type C |
แบตเตอรี่ | 4500mAh รองรับระบบชาร์จเร็วสูงสุดที่ 44W |
รองรับ | สแกนนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้า |
สี | Sunrise Gold และ Surfing Blue |
ราคา | 8GB + 128GB ราคา 13,999 บาท8GB + 256GB ราคา 14,999 บาท |
ช่องทางจัดซื้อ | เปิดจองที่ Vivo Thailand |
สรุปคุณสมบัติ Vivo V25 Pro
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch OS 12 รันบน Android 12 |
หน้าจอแสดงผล | 6.56 นิ้ว AMOLED E4ความละเอียด FHD+ (2,376×1,080) รองรับอัตราค่ารีเฟรชเรท 120Hz, HDR10+ค่าอัตราการสัมผัส Touch Sampling Rate 180Hz |
ชิปประมวลผล | Mediatek Dimensity 1300 (รองรับ 5G) |
Ram | 12GB (LPDDR4X plus) +8GB (Extended RAM 3.0) |
Storage | 256GB (UFS 3.1) |
กล้องหน้า | ความละเอียด 32MP ค่ารูรับแสง F/2.45 รองรับโหมด Eye Autofocus Human eye tracking |
กล้องหลัง | ประกอบเลนส์ 3 ตัวเลนส์หลักความละเอียด 64MP ค่ารูรับแสงF/1.89รองรับระบบกันสั่น OISเลนส์อัลตร้าไวด์ ความละเอียด 8MP ค่ารูรับแสงF/2.2เลนส์มาโคร ความละเอียด 2MP ค่ารูรับแสง F/2.4 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/acdual-band Bluetooth 5.2 |
พอร์ต | USB-Type C |
ระบบเสียง | Immerse Hi-Res Certification |
รองรับ | Liquid Cooling System (ระบบระบายความร้อน)สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ Optical Fingerprint |
แบตเตอรี่ | 4860mAh รองรับระบบ FlashChargeชาร์จเร็วสูงสุด 66W |
สี | Surfing Blue, Starlight Black |
ราคา | 19,999 บาท |
ช่องทางจัดซื้อ | เปิดจองที่ Vivo Thailand |
ที่มาข้อมูล thlmobilemall