เปิดตัว TECNO CAMON 19 Pro 4G/5G ดีไซน์สวย สเปกดี กล้อง 64 MP กันสั่น OIS

ทางบริษัท TECNO Thailand (เทคโน ประเทศไทย) เดินเกมรุกตลาดชนิดเต็มตัวด้วยการส่งสมาร์ทโฟนรุ่น TECNO CAMON 19 PRO มีมาให้เลือก 2 รุ่นคือ 5G และ 4G ซึ่งถูกออกแบบดีไซน์ให้ดูล้ำสมัยด้วยการการันตีจาก 2 รางวัลคือ iF Design Award 2022 กับ MUSE Design Award 2022 ชั้นนำระดับโลก อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีชั้นนำจบในเครื่องเดียวมีให้เลือก ทั้ง 5G และ 4G อีกด้วย

ถือได้ว่า TECNO CAMON 19 Pro เป็นผลิตภัณฑ์ของทางค่ายที่อยู่ในระดับเรือธงด้วยการผสานเทคโนโลยีและฟังก์ชันที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานของผู้คนในยุคปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น การถ่ายรูปต้องมีความคมชันในยุคสมัยนี้ทางค่ายจึงเน้นใส่กล้องระดับความละเอียด 64MP ที่ใส่นวัตกรรมกันสั่น OIS ช่วยในการถ่ายทั้งภาพนิ่งและวีดีโอมาให้อย่างสมบูรณ์

เปิดตัว TECNO CAMON 19 Pro 4G/5G ดีไซน์สวย สเปกดี กล้อง 64 MP กันสั่น OIS 1

การออกแบบดีไซน์ Design

TECNO COMMON 19 Pro ถูกออกแบบดีไซน์ให้มีรูปลักษณะทรงเหลี่ยม ตัวเครื่องมีลายเส้นสีขาวรูปทรงเรขาคณิตสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อตัวเครื่องโดนแสงแดด ซึ่งเป็นรุ่น Art Limited Edition ผลิตออกมามีจำนวนจำกัด ตัวเครื่องมีความบางที่สุดเพียงแค่ 0.98 มิลลิเมตร ตัวเครื่องจับถือถนัดมือด้วยน้ำหนัก 194 กรัม ถือว่าไม่หนักไม่เบาเกินไป

หน้าจอแสดงผล Display

ทางค่ายเทคโนได้ใส่หน้าจอแสดงผลมาเหมือนกันทั้งสองรุ่นคือขนาด 6.8 นิ้ว รูปแบบ LCD ความละเอียดให้มาในระดับ Full HD+ (1080 x 2460 พิกเซล) มีอัตราค่ารีเฟรชเรทที่ 120Hz ทางค่ายใส่ใจผู้ใช้งานโดยการใส่เทคโนโลยี TüV Rheinland ช่วยป้องกันแสงสีฟ้าที่ทำให้เวลาเล่นตาแห้งจึงไม่สามารถเล่นสมาร์ทโฟนได้เป็นเวลานานเพราะทำให้ปวดตา

เปิดตัว TECNO CAMON 19 Pro 4G/5G ดีไซน์สวย สเปกดี กล้อง 64 MP กันสั่น OIS 2

ด้านการถ่ายภาพ Camera

ในรุ่น TECNO Camon 19 Pro 5G จะให้สเปกกล้องหลังมาทั้งหมด 3 เลนส์ประกอบด้วย เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล เลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ส่วนรุ่น 4G ให้กล้องหลังมา 3 ตัวเช่นกันประกอบด้วย เลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล เลนส์เทเรโฟโต้ 50 ล้านพิกเซล เลนส์ Depth 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้าให้ความละเอียดมา 32 ล้านพิกเซล

ประสิทธิภาพในการทำงาน

เริ่มจากรุ่น TECNO Camon 19 Pro 5G ก่อนเลยจัดสเปกมาเป็นตัวชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 810 5G ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากด้วยความเร็วสูงสุด 2.4GHz ส่วนรุ่น 4G ใส่ขุมพลังของทาง MediaTek Helio G96 ที่อยู่ในระดับชั้นนำด้วยการทำงานที่เสถียรและรวดเร็ว ให้ประสิทธิภาพรองรับเครือข่าย 4G ทั้งสองรุ่นจะให้ Ram ที่ความจุ 8GB เหมือนกันทั้งสองรุ่น

ตัวเก็บข้อมูล Rom ให้มาเลือก ทั้ง 128GB กับ 256GB ในรุ่น 5G จะใส่เทคโนโลยีของ MediaTek เป็นนวัตกรรมเกมมิ่ง Hyper Engine 2.0 รวมกับ New Field Communication NFC ที่เป็นตัวส่งรับส่งข้อมูลชนิดแตะแล้วอ่านได้อย่างรวดเร็ว ส่วนด้านทรัพยากรแบตเตอรี่ทั้งสองรุ่นให้ความจุที่เท่ากันอยู่ที่ 5000mAh ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแต่ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคนด้วย

แต่ถ้ายังไม่เพียงพอทางค่ายได้ใส่เทคโนโลยี Fast Charge ระบบชาร์จเร็วที่รองรับสูงสุด 33W มาให้ ทางค่ายได้เคลมเอาไว้ว่าในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% จะใช้เวลาไปเพียงแค่ 65 นาที จึงทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ในเรื่องสีทีให้มารุ่น 5G มีทั้งหมด 2 สี คือ Eco Black (สีดำ) และ Cedar Green (สีเขียว) และรุ่น 4G มีสีให้เลือกแค่สีเดียวเป็นสีเฉพาะคือ Mondrian(สีมองเดรียน)