ในยุคเทคโนโลยีก้าวหน้าเข้าถึงผู้คนได้มากขนาดนี้ ทำให้อุปกรณ์ไอทีไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค แท็ปเลต ขายดีและนิยมกันมาก iPad ของทางค่าย Apple ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ผู้คนตัดสินใจอยากจะมีไว้เป็นเจ้าของสักเครื่อง ก็ต้องมานั่งตัดสินใจว่าจะเลือกรุ่นไหนดี วันนี้เราจะมาเปรียบเทียบสเปกระหร่าง iPad mini 6 กับ iPad Air 4 ซึ่งจะมีส่วนต่างของการจ่ายเงิน 2000 เลือกรุ่นไหนดีมาดูกัน
การออกแบบดีไซน์ Design
การออกแบบดีไซน์ทั้งสองรุ่นจะเป็นทรงเหลี่ยม ส่วนของมุมจะมนเล็กน้อยมีปุ่ม Touch ID อยู่ด้านบนของตัวเครื่องเหมือนกัน ส่วนที่ต่างคือขนาดของตัวเครื่องจอแสดงผลที่ iPad mini 6 ขนาด 8.3 นิ้ว มีขนาดที่เล็กกว่า iPad Air 4 ที่มีขนาด 10.9 นิ้ว แต่ iPad Air จะมีขนาดที่บางกว่า 0.2 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักที่มากกว่า iPad mini 6 ส่วนด้านสีของตัวเครื่องก็ให้มาไม่เหมือนกันอยู่ที่ใครจะชอบสีไหน
ด้านประสิทธิภาพชิปเซตประมวลผล
ในเรื่องชิปเซตตัวประมวลผลมีความต่างกันอย่างชัดเจนคือiPad Air 4 ใช้ชิปเซต A14 Bionic ตัวเก่าแต่iPad mini 6 เป็นตัวที่เพิ่งออกมาใหม่จะใช้ชิปเซตตัวใหม่ล่าสุดตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 อย่าง A15 Bionic มีความเร็วมากกว่าชิปเซตตัวเก่าถึง40% การทำงานของตัวซีพียูแบบ CPU 6-Core และ GPU 5-Core กับ Neural Engine แบบ 16-Core เร็วมากว่าเดิม 2 เท่า
ทำให้ iPad mini 6 มีประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วกว่า สามารถทำงานที่ประมวลผลหนักๆไม่ว่าจะเป็นงานตัดต่อหรืองานออกแบบ จะเล่นเกมก็จะทำได้ดีกว่าเดิมแถมยังรองรับ 5G อีกด้วย สองรุ่นนี้มีขนาดความจุของตัวเครื่องที่เท่ากันคือ 64GB กับ 256GB ด้านแบตเตอรี่สามารถใช้ดูวีดีโอได้นานถึง 10 ชั่วโมง เล่นอินเตอร์เน็ตนานถึง 9 ชั่วโมง เท่ากัน พอร์ตการเชื่อมต่อของทั้งสองรุ่นเป็น USB-C รองรับชาร์จเร็ว 20w
ด้านจอแสดงผล Display
หน้าจอการแสดงผลมีสัดส่วนขนาดที่ต่างกันคือ iPad mini 6 จะมีขนาดที่ 8.3 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2266 x 1488 พิกเซล ซี่งมีขนาดที่เล็กกว่า iPad Air 4 ที่มีขนาด 10.9 นิ้ว ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล หน้าจอเป็นแบบLiquid Retina เหมือนกันทั้งสองรุ่นแสดงผลแบบทรูโทนรองรับApple Pencil 2 ipad mini 6 รองรับคีย์บอร์ด Bluetooth แต่ iPad Air 4 รองรับ Magic Keyboard ,Smart Keyboard
ประสิทธิภาพของกล้องหลังและกล้องหน้า
การใช้งานของ iPad ส่วนใหญ่จะไม่เน้นในการถ่ายภาพสักเท่าไหร่เหมือนทางด้านของ iPhone ที่จะเน้นเรื่องถ่ายภาพ กล้องหลังของทั้งสองรุ่นจะให้ความละเอียดที่เท่ากันคือ 12 ล้านพิกเซล ถ่ายแบบ HDR รูรับแสง f/1.8 ซูมแบบดิจิทัลสูงสุด 5x digital zoom มีแฟลชไฟ LED 4 ดวง สี True Ton เข้ามาช่วยประสิทธิภาพการถ่ายที่ดียิ่งขึ้นส่วนนี้ก็เหมือนกัน ส่วนที่จะต่างกันออกไปจะอยู่ที่กล้องหน้า
ipad mini 6 พัฒนากล้องหน้าจะเลือกใช้เลน์อัลตร้าไวด์ที่มีมุมมองกว้าง 122 องศา จะมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายแบบ HDR จัดเลนส์กล้องให้อยู่ตรงกลางแบบรุ่นพี่อย่าง iPad Pro ส่วน iPad Air 4 กล้องหน้าจะให้มาแค่เลนส์กล้อง FaceTime HD ที่มีความละเอียด 7ล้านพิกเซล ที่ลักษณะการใช้งานแบบทั่วๆไป
ด้านราคาของ iPad mini 6 กับ iPad Air 4
ส่วนด้านราคาของทั้งสองรุ่นนี้ราคาจะดูใกล้เคียงกันมากมีส่วนต่างกันอยู่แค่ 2000 บาทเท่านั้นคือ iPad mini 6 รุ่นWifi 64GB ราคา 17,900 บาท 256GB ราคา 23,400 บาท รุ่นWi-Fi + Cellular 64GB ราคา 23,400 บาท 256GB ราคา 28,900 บาท ส่วน iPad Air 4 Wi-Fi 64GB ราคา 19,900 บาท 256GB ราคา 24,900 บาท รุ่น
Wi-Fi + Cellular 64GB ราคา 24,400 บาท 256GB ราคา 29,400 บาท
ตารางสรุปสเปกของ iPad mini 6 กับ iPad Air 4
ข้อมูล\ รุ่น | iPad mini 6 (8.3 นิ้ว) | iPad Air 4 (10.9 นิ้ว) |
ขนาด | 195.4 x 134.8 x 6.3 มม. | 247.6 x 178.5 x 6.1 มม. |
น้ำหนัก | WiFi : 293g | WiFi : 458g |
น้ำหนัก | Cellular : 297g | Cellular : 460g |
CPU | Apple A15 Bionic | Apple A14 Bionic |
RAM | 4GB | 4GB |
ROM | 64GB/ 256GB | 64GB/ 256GB |
กล้องหน้า | Ultrawide 12MP | FaceTime HD 7MP |
กล้องหลัง | 12MPแฟลช True Tone | 12MP |
สี | ชมพู, ม่วง, สตาร์ไลท์, เทาสเปซเกรย์ | เงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว, สกายบลู |
รองรับ | Apple Pencil (รุ่นที่ 2) | Apple Pencil (รุ่นที่ 2) |
Keyboard | Keyboard Bluetooth | Magic Keyboard และ Smart Keyboard Folio |
แบตเตอรี่ | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชั่วโมง ท่องเน็ตสูงสุด 9 ชั่วโมง ช่องต่อ USB-C | ดูวิดีโอสูงสุด 10 ชั่วโมง ท่องเน็ตสูงสุด 9 ชั่วโมง ช่องต่อ USB-C |
การเชื่อมต่อ | 5G, WiFi 6 | 4G, WiFi 6 |
ราคา (เริ่มต้น) | 17,900 บาท | 19,900 บาท |
บทสรุป
จากตารางข้างบนที่เปรียบเทียบสเปกของทั้งสองรุ่น iPad mini 6 vs iPad Air 4 จะเห็นได้ว่าเรื่องประสิทธิภาพความแรงของชิปเซตและความใหม่ของรุ่นจะเป็นทางด้าน iPad mini 6 ที่จะชนะไป เพราะเป็นรุ่นที่เพิ่งจะมีการเปิดตัวจึงมีสเปกที่แรงกว่า และด้านกล้องก็ดีกว่า แต่ขนาดของ iPad mini 6 จะมีขนาดที่เล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด จึงจะเหมาะกับคนที่ต้องการเน้นเรื่องความกะทัดรัดพกพาได้สะดวก
เน้นทำงานหนักๆด้านตัดต่อด้านทำงานกราฟฟิกต่างๆ เน้นประชุม แต่ไม่เน้นงานพิมพ์ ถ้าใครที่จะเป็นสายที่ต้องการพิมพ์งานบ่อยๆที่ต้องการหน้าจอที่ใหญ่อยากเอาไว้ดูหนังจอใหญ่ๆก็ต้องเลือก iPad Air 4 ราคาก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานเองว่าแบบไหนตอบโจทย์การใช้งานของท่านมากที่สุด
ที่มาข้อมูล thlmobilemall
เครดิต : สล็อตแตกง่าย