บริษัท Apple หลังจากเปิดตัว iPhone SE 3 ไปแล้วทางค่ายก็ได้เปิดตัว iPad Air 5 ตามมาติดๆไม่ต้องให้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว ซึ่ง การพัฒนาเปลี่ยนแปลงในรอบนี้มีความปรับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากรุ่นก่อนหน้านี้มากๆเลย ถึงจะมีส่วนที่คงความเหมือนเดิมอยู่แต่สิ่งที่เปลี่ยนก็ตามแหล่งข่าวที่เคยหลุดมาก่อนหน้านี้
Unbox iPad Air 5
- ตัวเครื่อง iPad Air 5
- สายชาร์จ USB-C to USB-C (1 เมตร)
- อะแดปเตอร์ หัวชาร์จ USB-C 20W
- คู่มือการใช้งานเบื่องต้น
การออกแบบดีไซน์ iPad Air 5
ด้านการออกแบบดีไซน์เครื่องผู้พัฒนาได้ทำการเปลี่ยนแปลงให้มีความต่างออกไปอย่างชัดเจนจากรุ่นก่อนอย่างแน่นอน แต่ก็มีบางอย่างยังคงเหมือนเดิม ตัวเครื่องดูมีความเป็นทรงเหลี่ยม จอมาเต็มไร้ปุ่มโฮม โลโก้ด้านหลังเปลี่ยน จาก ipad เป็น ipad Air ปุ่มสแกนนิ้วมือ Touch iD อยู่ ที่ปุ่ม powerของส่วนบนตัวเครื่อง ปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงอ อยู่ด้านข้างของตัวเครื่อง
หน้าจอแสดงผล
iPad Air เลือกใช้หน้าจอชนิดLiquid Retinaจอภาพ Multi‑Touch แบบ LED ขนาด 10.9 นิ้ว ให้ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 500 นิต สเปกที่กล่าวมานี้ทำให้หน้าจอดูมีสีสันสดใสเหมาะมากกับการทำงานวาดเขียน งานตัดแต่งรูปภาพหรือจะตัดต่อวีดีโอ หรือจะทำการดูหนัง แสดงผลแบบ true tone มีโหมดปรับแต่งสีของจอหรือปรับแบบอัตโนมัติ เป็นการถนอมสายตาแก่ผู้ใช้ได้ดีเยี่ยม
ประสิทธิภาพในการทำงาน
ทางบริษัท Apple จะแบ่ง ipad ออกจากลักษณะการใช้งานเป็น 3 กลุ่ม iPad Air 5 จะจัดอยู่ในระดับกลางซึ่งผู้พัฒนาที่เลือกใช้ชิปเซตตัวประมวลผลของ M1 เหมือนกับตัว รุ่น Pro ที่มาพร้อมกับตัวซีพียูกับจีพียูตัวละ 8 แกน มีประสิทธิภาพแรงกว่าเดิมถึง 60% ด้านตัวประมวลผลกราฟฟิกจะแรงกว่าเดิมถึง2เท่า ทาง Apple อยากให้ผู้ใช้รู้สึกว่าได้ใช้งานตัวเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงใกล้เคียงกับเครื่องที่อยู่ในระดับตัวโปรแต่คุณจะได้จ่ายเงินที่น้อยกว่า
มีเงินไม่มากก็สามารถมีประสบการณ์ขั้นสูงได้นั้นเอง คือจุดประสงค์ของการผลิตเจ้าตัว iPad Air 5 นี่เอง ตัวชิปเซ็ต M1 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใส่มาในซีรี่ย์ 13 ก็รู้จักกันดีอยู่ว่าชิปเซ็ตตัวนี่มีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงและมีความเร็วมากในการทำงาน ทาง Apple ได้เคลมเอาไว้ว่า การที่ iPad Air 5 ใส่ชิปเซ็ต M1 ทำงานด้านการสลับแอพพลิเคชั่นและการเล่นเกมที่เน้นในด้านกราฟฟิกหนักหน่วงที่สวยงามนั้นจะทำให้มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นไปอีก 60%
ส่วนด้านของ Ram จะถูกอัพเกรดจากตัวเก่ามาเป็น 8GB เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมก่อน และการทำงานในส่วนการวาดรูปนั้นทำงานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ไม่มีอาการหน่วงไม่มีอาการค้างเลย แถมตัวเครื่องยังรองรับการใช้งานของ Apple Pencil 2 จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้มากยิ้งขึ้นไปอีก ส่วนการเล่นเกมที่เน้นกราฟฟิกที่หนักหน่วง iPad Air 5 ถือว่าเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นหัวแตกกันไปเลยทีเดียว ภาพที่ได้ออกมามีขนาดที่ชัดเจนเป็นอย่างมาก
ผลของการทำงานตัดต่อวีดีโอก็เป็นที่ชื่นชอบกันเป็นอย่างมากด้วยที่ให้หน้าจอมาขนาดใหญ่ทำให้การทำงานด้านตัดต่อได้อย่างมาประสิทธิภาพ การแสดงผลของจอมีความคมชัด ไม่เจออาการกระตุกในการดูวีดีโอเลย การตัดต่อวีดีโอก็เป็นไปอย่างไหลลื่นเลยทีเดียว ระบบเสียงที่ให้มาจะอยู่ในโหมดแนวนอนที่ด้านบน มีลำโพง 1 ตัว ช่องด้านล่างอีก 1 ตัว มีช่องลำโพง 4 ช่อง ถ้าเล่นเกม เสียงที่ได้ออกมาจะออกทั้งสองตัวแยกเสียงอย่างชัดเจน
การถ่ายภาพ
iPad Air 5 ตัวกล้องหลังได้ถูกทำการอัพเกรดให้เป็นเลนส์อัลตร้าไวด์ที่มีความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซลพร้อมฟังก์ชัน Center Stage จัดให้อยู๋ตรงกลาง ช่วยให้คนเข้าเฟรมอยู่เสมอกล้องจะเคลื่อนตามอย่างอิสระโดยอัตโนมัติ กล้องจะขยายออกหรือซูมเข้าได้เองอัตโนมัติ ตอบโจทย์สำหรับคนที่ถ่ายวีดีโอหรือทำคอนเทรน พรีเซ็นงานต่างๆ แก้การถ่ายวีดีโอแล้วกล้องทำให้คนตกเฟรมนั้นเองส่วนกล้องหลังจะให้มาเป็นเลนส์ไวด์ที่มีความละเอียดที่ 12 ล้านพิกเซล
สรุปสเปก iPad Air 5
- ระบบปฏิบัติการ : iPadOS 15
- ขนาดตัวเครื่อง : 247.6 x 178.5 x 6.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนักเครื่อง : 461 กรัม (Wi-Fi) หรือ 462 กรัม. (Wi‑Fi + Cellular)
- หน้าจอแสดงผล : ขนาด 10.9 นิ้ว Liquid Retina แบบ IPS-LCD
ความละเอียด 2360 x 1640 พิกเซล
- CPU ชิปเซ็ต : Apple M1
- GPU การ์ดจอ : Apple GPU
- Ram : 8GB
- Storage : 64GB / 256GB
- กล้องหลัง : เลนส์ไวด์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8
รองรับถ่ายออโต้โฟกัส Focus Pixels
รองรับถ่ายวีดีโอ 4K 1080p
- กล้องหน้า : เลนส์อัลตร้าไวด์ ละเอียด12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4
ถ่ายมุมกว้าง 122 องศา รองรับฟังก์ชั่น Center Stage
รองรับถ่ายวีดีโอ 1080p
- ระบบเสียง : ลำโพงให้มีแบบสเตอริโอ 2 ตัวซ้ายขวา
(ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร)
- เชื่อมต่อ : 5G Sub-6GHz 4×4 MIMO
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, Bluetooth 5.0,
- พอร์ต : USB Type-C 3.1 Gen 2
- แบตเตอรี่ : 28.6Wh
เล่นดูเว็บไซต์ทั่วไปหรือดูไฟล์วีดีโอ 10 ชม. (WiFi)
เล่นดูเว็บไซต์ทั่วไปได้ 9 ชม. (Cellular)
- เซนเซอร์ : สแกนนิ้วมือ (Touch ID)
อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ,บารอมิเตอร์
เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
- รองรับ : Apple Pencil รุ่น2 และ Magic Keyboard
- รองรับ : eSIM
- สี : สีเทาสเปซเกรย์ , สีสตาร์ไลท์ , สีชมพู , สีม่วง , สีฟ้า
- ราคา : 64GB (WiFi) ราคา 20,900 บาท
64GB (WiFi + Cellular) ราคา 25,900 บาท
256GB (WiFi) ราคา 25,900 บาท
256GB (WiFI + Cellular) ราคา 30,900 บาท
- ช่องทางจำหน่าย : Apple Store Online , Banana it, Shopee ,lazada
ที่มาข้อมูล thlmobilemall
เครดิต : สล็อตเว็บตรง